รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2023/24
วันแข่งขัน: วันพุธที่ 27 ธันวาคม 2566
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
ผลการแข่งขัน: เชลซี 2-1 คริสตัล พาเลซ
ในการจำเป็นต้องผ่าตัดทัพอีกครั้งของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ นัดนี้ ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ จะเล่นไม่ได้ดีนัก ยิ่งเมื่อกองหน้าใช้โอกาสเปลืองด้วยแล้วก็ยิ่งปกติธรรมดา และ คริสตัล พาเลซ ก็คู่ควรกับการมีแต้มกลับออกไป กระนั้น เชลซี ก็ยังดวงแข็งพอให้มาได้จุดโทษ น.89 จนเฉือนชัยได้อย่างฉิวเฉียด 2-1
คะแนนนักเตะ เชลซี
ยอร์เย่ เปโตรวิช – 7 – แทบไม่เจอบททดสอบตลอดครึ่งแรกที่ พาเลซ ยิงตรงกรอบแค่ 2 ครั้ง กระนั้นก็เสียประตูเลยกับการล่อเป้าของ ไมเคิ่ล โอลิเซ่ ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก จากนั้นครึ่งหลังต้องงัดช็อตเซฟมาป้องกันลูกยิงของ มาเตต้า และ โอลิเซ่ เอาไว้ 2-3 หน
ลีวาย โคลวิลล์ – 5 – เจองานหนักมากในการเผชิญหน้าตัวจี๊ด ไมเคิ่ล โอลิเซ่ ที่แสดงความวูบวาบได้ตั้งแต่ต้น แล้วเมื่อเผลอประกบห่างแวบเดียวก็โดน โอลิเซ่ ลงโทษจนเสีย 1-1 เลยตอนทดเจ็บครึ่งแรก จากนั้นครึ่งหลังเล่นได้ไม่นานก็ถูกเปลี่ยนออก
เบอนัวต์ บาเดียชิล – 6 – ต้องดวลกับความสูงใหญ่ของ มาเตต้า หอกเป้าพาเลซ อยู่ตลอด และชัดเจนว่ามีปัญหาพอสมควรในการรับมือ แม้จะไม่ถึงขั้นส่งผลเสียให้ถึงกับแต้มหล่นก็ตาม
อักเซล ดิซาซี่ – 6 – เช่นเดียวกับ บาเดียชิล คือต้องผลัดกันตามล้างตามเช็ดหอกร่างใหญ่อย่าง มาเตต้า อยู่ตลอดเวลา แต่ดีหน่อยว่างานของ ดิซาซี่ ลดลงไปบ้างในช่วงครึ่งหลัง ที่ได้โยกออกไปยืนแบ็กขวา
มาโล กุสโต้ – 8 – มีวันที่ดี ครึ่งแรกยืนแบ็กขวา เติมเกมรุกทะลุทะลวงเร้าใจ มีส่วนสำคัญยิ่งในประตูนำ 1-0 ด้วยการลุยถึงเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วแอสซิสต์ให้ มิไคโล มูดริค ปิดสกอร์ ต่อมาก็มีโชว์สกัดบอลจังหวะอันตราย ส่วนครึ่งหลังต้องโยกไปเล่นแบ็กซ้าย ก็ทำได้ยอดเยี่ยมทั้งรุกรับ มีสกัดช็อตสำคัญให้เห็น
มอยเซส ไคเซโด้ – 7 – ครึ่งแรกทำหน้าที่ตัวตัดเกมอย่างมีวินัย จะขยับเลยเส้นครึ่งสนามมาก็แค่ไม่กี่หลาเท่านั้นเพื่อช่วยต่อบอล แต่ก็มีจังหวะให้ตำหนิอยู่บ้างเช่นลูกเสียประตูที่ถอยตาม โอลิเซ่ ไม่สุด ส่วนครึ่งหลังได้รับมอบหมายให้เติมเกมรุกสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ถือว่าโดดเด่นอะไร
คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ – 6 – ครึ่งแรกได้บอลค่อนข้างน้อย บทบาทลดลงไปเมื่อเทียบกับเกมก่อนๆ แต่ก็เป็นตัวเชื่อมเกมจากหลัง มีหน้าที่สำคัญต่อการลำเลียงบอล ก่อนที่ครึ่งหลังจะขยับขึ้นสูงมาเป็นหนึ่งในตัวรุก มีอิสระมากขึ้นในการสร้างเกม
มิไคโล มูดริค – 7 – เริ่มต้นเกมอย่างสวยงามด้วยการแปบอลจ่ายของ กุสโต้ เข้าไปแบบไม่จับในนาที เว็บ สล็อต เว็บ ตรง 14 และหวิดยิงเม็ดสองจังหวะหลุดอีกครั้งในนาที 22 แต่คราวนี้กดไม่ผ่านเซฟนายทวารพาเลซ แต่ว่าหลังจากนั้นถือว่าค่อนข้างเงียบ จนถูกเปลี่ยนออกตามระเบียบ
คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู – 7 – แม้จะไม่ได้แอสซิสต์โดยตรงแต่ก็มีส่วนร่วมกับการนลำเลียงบอลในประตูนำ 1-0 ของ มูดริค 168 สล็อต แล้วจากนั้นได้โอกาสดีในการทะลุเข้ายิงเอง สล็อต ทดลอง เล่น น.26 สล็อต ฟรี แต่โดน คริส ริชาร์ดส์ ตัดจังหวะหวุดหวิดจากข้างหลัง ส่วนในครึ่งหลัง การต้องโยกมายืนเบี่ยงขวาหน่อย ทำให้หายไปจากเกม
ยาน มาตเซ่น – 5 – เกือบพา เชลซี ขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 9 แต่จังหวะหลุดเดี่ยวกินนายทวารคู่แข่งไม่สำเร็จ จากนั้นครึ่งแรกถือว่ามีบทบาทน้อยกว่าเพื่อนในแนวรุกสิงห์ จนกระทั่งเป็นเซ็ตแรกที่ถูกถอดออกจากสนาม
นิโคลัส แจ๊คสัน – 5 – ทำได้เยี่ยมกับจังหวะโชว์เหนือตอกส้นให้ มูดริค หลุดเดี่ยวนาที 22 เช่นเดียวกับนาที 26 ที่ไหลให้ เอ็นคุนคู ทะลุแล้วแต่โดนตัดเกม แต่สำหรับจังหวะจบของตัวเองยังน่าส่ายหัวเช่นเดิม โดยเฉพาะ เล่น สล็อต ฟรี น.74 ที่มาเดี่ยวๆ แล้ว จิ้มสวนนายทวารหลุดเสาแบบน่าเกลียดมาก
สำรอง
ติอาโก้ ซิลวา (แทน ลีวาย โคลวิลล์ น.58) – 7 – ลงไปช่วยให้เกมรับของ เชลซี แข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และที่ต้องนั่งสำรองบ้าง ก็แค่เพื่อไม่ให้เหนื่อยล่าเกินไปเท่านั้น
โรมิโอ ลาเวีย (แทน ยาน มาตเซ่น น.58) – 6 – ลงไปยืนตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ สำหรับเกมประเดิมสนามในฐานะนักเตะ เชลซี และมีโอกาสได้เล่นกับบอลพอสมควร
โนนี่ มาดูเอเก้ (แทน คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ น.71) – 8 – ลงไปทำประโยชน์อย่างเห็นผล กลายเป็นตัวตัดสินเกมไปเฉยเลยแม้ฟอร์มภาพรวมจะไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก เมื่อทั้งเรียกจุดโทษได้ และยิงเองเข้าไปไม่พลาด
อาร์มันโด้ โบรย่า (แทน คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู น.71) – 5 – ตรงข้ามกับ มาดูเอเก้ คือลงไปแล้วไม่มีประโยชน์ และยังทำเสียของหลายหนในการขึ้นเกมรุก
อัลฟี่ กิลคริสต์ (แทน เบอนัวต์ บาเดียชิล น.90+2) N/A เป็นแค่การเปลี่ยนตัวถ่วงเวลา ไม่ได้ทำอะไรเมื่ออยู่ในสนามแค่ไม่กี่นาทีสุดท้ายของช่วงทดเจ็บ
Recommend. :: เกมทำเงิน ลิเวอร์พูล 2-0 เอฟเวอร์ตัน: เก็บตกหลังเกม พรีเมียร์ลีก ศึก เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ หงส์แดง เชือด ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน